Top 15 บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำด้าน AI ฤดูร้อนปี 2024

ปัญญาประดิษฐ์ ระบบอัตโนมัติ และหุ่นยนต์กำลังก่อเกิดความเปลี่ยนแปลงในแทบทุกภาคส่วนของอุตสาหกรรม ความก้าวหน้าที่น่าทึ่งในเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ ได้แก่ แชทบอท AI ChatGPT ของ OpenAI ซอฟต์แวร์สร้างรหัส AI Copilot ของ GitHub และโมเดล AI Gemini ของ Google ซึ่งปัจจุบันกลายเป็นชื่อที่คุ้นเคยสำหรับหลายๆ คน ไม่ว่าจะเป็นการเรียนรู้ของเครื่อง โมเดลภาษาขนาดใหญ่ (Large Language Models) ซึ่งเป็นโมเดลพื้นฐานการประมวลผลของ Generative AI ซึ่งจะเรียนรู้ผ่านกระบวนการเรียนเชิงลึกโดยผ่านการเทรนด้วยข้อมูลจำนวนมาก แอปพลิเคชันและเครื่องใช้อัจฉริยะ ผู้ช่วยดิจิทัล ซอฟต์แวร์สื่อสังเคราะห์ หรือยานยนต์ไร้คนขับ บริษัทที่ไม่ได้ลงทุนในผลิตภัณฑ์และบริการปัญญาประดิษฐ์มีความเสี่ยงที่จะล้าสมัย บริษัทนับไม่ถ้วนได้รับประโยชน์จากปัญญาประดิษฐ์ เนื่องจาก AI ส่งผลกระทบต่ออุตสาหกรรมต่างๆ มากมาย ภารกิจของบริษัท AI ชั้นนำจึงมีความหลากหลายอย่างเหลือเชื่อ เช่นเดียวกับวิธีการที่พวกเขานำเทคโนโลยีนี้ไปใช้ ซึ่งมีตั้งแต่การขับขี่อัตโนมัติไปจนถึงการรักษาความปลอดภัยทางไซเบอร์ การพัฒนาแอปพลิเคชัน และอื่นๆ อีกมากมาย นอกจากนี้ บริษัท AI ยังมีความยั่งยืนอย่างกว้างขวาง โดยรายชื่อบริษัทที่ใหญ่ที่สุดรวมถึงผู้เล่นในภาคเทคโนโลยีระยะยาวและองค์กรใหม่ๆ เช่นกัน บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำด้าน AI ทั้ง 15 แห่งนี้มีมูลค่าตามราคาตลาด ณ ฤดูร้อนปี 2024 ดังนี้

1. Apple (AAPL)

Apple

Source: https://www.forbes.com/advisor/investing/how-to-buy-apple-aapl-stock/

Apple Inc. บริษัทเทคโนโลยีชั้นนำและเป็นหนึ่งในบริษัทปัญญาประดิษฐ์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก โดยมีชื่อเสียงในด้านการออกแบบและผลิตอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์สำหรับผู้บริโภค ซอฟต์แวร์ และบริการใหม่ๆ รวมถึง คอมพิวเตอร์ Mac, iPhone, iPad และ Apple Watch บริษัทมุ่งเน้นที่การส่งมอบเทคโนโลยีโดยเน้นอย่างมากที่ประสบการณ์ของผู้ใช้ ความเป็นส่วนตัว และการบูรณาการระบบนิเวศ

เมื่อวันที่ 10 มิถุนายน 2024 Apple Inc. ได้ประกาศเปิดตัว Apple Intelligence ซึ่งเป็นซอฟต์แวร์ปัญญาประดิษฐ์ที่ผสานรวม ChatGPT เพื่อนำเสนอฟีเจอร์คล้ายผู้ช่วยส่วนตัวที่ผสานรวมเข้ากับ Siri และ Writing Tools ฟีเจอร์เหล่านี้มีไว้เพื่อเปิดตัวพร้อมกับซอฟต์แวร์ปรับปรุงใหม่ของ iPhone และ iPad 18.0 แต่มีแนวโน้มว่าจะล่าช้าออกไปเป็น iOS 18.1 ฟีเจอร์อื่นๆ ที่ประกาศในเดือนมิถุนายน ได้แก่ ความสามารถในการล็อกและซ่อนแอป และตั้งเวลาส่งข้อความในภายหลัง (ปัจจุบัน Apple Inc. มีมูลค่าตามราคาตลาด $3.34 trillion)

2. Microsoft (MSFT)

Microsoft

Source: https://tech.co/news/microsoft-worlds-best-company-work-for-report

Microsoft ยังคงเป็นผู้นำด้านเทคโนโลยีคอมพิวเตอร์สำหรับผู้ใช้ปลายทางมาเกือบสี่ทศวรรษและปัจจุบันเป็นบริษัทที่ใหญ่ที่สุดในโลก ระบบปฏิบัติการเดสก์ท็อป Windows ยอดนิยมของบริษัทครองส่วนแบ่งตลาดทั่วโลกประมาณ 72% ด้วยการลงทุน 10,000 ล้านดอลลาร์ใน OpenAi ในเดือนมกราคม 2023 และการผสานรวมแชทบอท AI ที่สร้างด้วย ChatGPT และการสร้างภาพ Dall-E เข้ากับเครื่องมือค้นหา Bing และซอฟต์แวร์ท่องเว็บ Edge ทำให้ Microsoft อ้างตำแหน่งของตนเองในฐานะบริษัทปัญญาประดิษฐ์ชั้นนำแห่งหนึ่งของโลก ในเดือนมิถุนายน 2024 Microsoft ได้ประกาศเปิดตัวพีซีรุ่นใหม่ที่มี Neural Processing Unit เรียกสั้นๆ ว่า NPU หรือเรียกอีกอย่างว่า AI Boost เป็นหน่วยประมวลผลที่เข้ามาช่วยให้ระบบ AI ทำงานได้รวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น ทำหน้าที่เป็นตัวเร่งประสิทธิภาพด้าน AI ที่อยู่บนตัวคอมพิวเตอร์โดยเฉพาะ ทำให้ CPU ทำงานด้าน AI ได้มากขึ้นโดยไม่ต้องพึ่งพาการประมวลผลบนคลาวด์ โดยโครงสร้างพื้นฐานการประมวลผลบนคลาวด์ของบริษัทอย่าง Azure กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว ซึ่งขับเคลื่อนโดยการพัฒนาแอป AI ของ Azure (ปัจจุบัน Microsoft มีมูลค่าตามราคาตลาด $ 3.37 trillion)

3. NVIDIA (NVDA)

NVIDIA

Source: https://www.forbes.com/sites/ariannajohnson/2023/05/26/why-nvidia-may-become-the-6th-company-worth-1-trillion/

NVIDIA เป็นบริษัทผู้ผลิตหน่วยประมวลผลกราฟิก (GPU: Graphic Processing Unit) ซึ่งพลังการประมวลผลของบริษัทเป็นรากฐานของเทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์หลายๆ อย่าง NVIDIA ครองส่วนแบ่งตลาด GPU สูงถึง 87% และมีส่วนช่วยในการพัฒนาเทคโนโลยี AI ที่สำคัญ เช่น ChatGPT ซึ่งได้รับการเทรนด้วย GPU ของ NVIDIA จำนวน 10,000 ตัว เมื่อเดือนกันยายน 2022 NVIDIA ได้ประกาศเปิดตัวบริการโมเดลภาษาขนาดใหญ่ด้าน AI บนคลาวด์ 2 บริการ ได้แก่ NVIDIA NeMo Large Language Model Service และ NVIDIA BioNeMo LLM Service ที่ช่วยให้นักพัฒนาสามารถปรับโมเดลภาษาขนาดใหญ่ และปรับใช้แอปพลิเคชัน AI แบบกำหนดเองสำหรับการสร้างเนื้อหา การสรุปข้อความ แชทบอท การพัฒนาโค้ด ตลอดจนโครงสร้างโปรตีนและการทำนายคุณสมบัติทางชีวโมเลกุล และอื่นๆ ในฐานะหนึ่งในโมเดลภาษาขนาดใหญ่ที่ก้าวหน้าที่สุดและความร่วมมือใหม่กับ Microsoft ช่วยตอกย้ำสถานะของบริษัทท่ามกลางบริษัท AI ชั้นนำ

ปี 2024 NVIDIA เติบโตอย่างมีนัยสำคัญเป็นส่วนหนึ่งของการเติบโตของ AI ในเดือนเมษายน 2024 บริษัทได้ประกาศซื้อกิจการบริษัท Run:ai และ Deci ซึ่งมีฐานอยู่ในอิสราเอล จากนั้นในวันที่ 10 มิถุนายน 2024 บริษัทได้ออกหุ้นแบ่งสัดส่วน 10:1 ซึ่งหมายความว่าสำหรับหุ้นของบริษัททุกๆ 1 หุ้นที่ใครก็ตามถืออยู่ พวกเขาจะถือหุ้น 10 หุ้น แม้ว่ามูลค่ารวมของการลงทุนจะยังคงเท่าเดิม แต่ราคาหุ้นแต่ละหุ้นก็ลดลงเหลือเพียงหนึ่งในสิบของราคาเดิม ไม่กี่วันหลังจากการประกาศแยกหุ้น ในวันที่ 18 มิถุนายน NVIDIA ได้ประกาศความร่วมมือกับ Hewlett Packard Enterprise ผ่านโครงการ NVIDIA AI Computing ของ HPE ซึ่งรวมถึงโซลูชัน AI มากมายที่พวกเขาพัฒนาร่วมกัน โครงการนี้มุ่งหวังที่จะช่วยให้ธุรกิจต่าง ๆ นำเทคโนโลยี AI เชิงสร้างสรรค์มาใช้ได้อย่างรวดเร็วโดยนำเสนอผลิตภัณฑ์และกลยุทธ์แบบบูรณาการที่ใช้ประโยชน์จากความเชี่ยวชาญและเทคโนโลยีของบริษัท (ปัจจุบัน NVIDIA มีมูลค่าตามราคาตลาด $2.64 trillion)

4. Alphabet (GOOG) [Market cap: $2.06 trillion]

Alphadet

Source: https://www.analyticsinsight.net/artificial-intelligence/alphabets-ai-strategies-in-depth-analysis-of-googles-parent-company

กลุ่มผลิตภัณฑ์ของ Google ครอบคลุมอุตสาหกรรมเทคโนโลยีหลายประเภท ตั้งแต่การศึกษา การโฆษณา การออกกำลังกาย ไปจนถึงการสตรีมวิดีโออย่าง YouTube โดย Google ก่อตั้งบริษัทมาเป็นเวลา 25 ปี มีเครื่องมือค้นหา Google เป็นผลิตภัณฑ์หลักซึ่งเป็นชื่อเดียวกันกับชื่อบริษัท โดยรายงานระบุว่า การค้นหาทั่วโลกเฉลี่ย 8,500 ล้านครั้งในแต่ละวัน ผู้ใช้งานค้นหาด้วย Google คิดเป็นมากกว่าร้อยละ 90 โดย Google และบริษัทแม่ Alphabet ขยายธุรกิจไปสู่ ​​AI และการเรียนรู้เชิงลึกด้วยการก่อตั้งแผนก AI ของ Google ในปี 2017

ในปี 2023 บริษัทได้ประกาศเปิดตัว Bard ซึ่งเป็น AI Chatbot ที่ออกแบบมาเพื่อต่อกรกับการผสานรวม ChatGPT เข้ากับเครื่องมือค้นหา Bing ของ Microsoft อย่างไรก็ตาม การเปิดตัวนี้ได้รับผลกระทบจากการไม่เห็นด้วยกับการเปิดตัวผลิตภัณฑ์ภายในองค์กร ในเดือนพฤษภาคม 2024 ทาง Google ได้เปิดตัวฟีเจอร์ AI ล่าสุด คือ AI Overviews ให้กับทุกคนที่ใช้เครื่องมือค้นหาของ Google โดยมีความมุ่งหวังที่จะให้คำตอบที่เจาะลึกยิ่งขึ้นสำหรับแต่ละคำถามของผู้ใช้ก่อนที่จะคลิกผ่านไปยังบทความที่แสดงอยู่ในผลการค้นหา หลังจากเปิดตัวไม่นาน Google ได้ยกเลิกฟีเจอร์ดังกล่าวชั่วคราว เนื่องจากข้อมูลที่สร้างโดย AI ที่ไม่ถูกต้องแพร่หลาย แม้ว่าจะมีอุปสรรคบางประการกับการเปิดตัวเหล่านี้ แต่รายได้คลาวด์รายไตรมาสของ Alphabet ก็ทะลุ 10,000 ล้านดอลลาร์ในไตรมาสที่ 2 ปี 2024 เป็นครั้งแรกเนื่องมาจากการลงทุนในนวัตกรรม AI (ปัจจุบัน Alphabet มีมูลค่าตามราคาตลาด $2.64 trillion)

5. Meta Platforms (META)

Meta

Source: https://www.investopedia.com/meta-q4-fy22-earnings-preview-7100985

Meta (เดิมเรียกว่า Facebook) มีอายุครบ 20 ปีเมื่อไม่นานนี้ และเติบโตจนมีฐานผู้ใช้ที่กว้างขวาง โดยมีผู้ใช้ 3.14 พันล้านคนโต้ตอบกับแพลตฟอร์มใดแพลตฟอร์มหนึ่งทุกวัน บริษัทเป็นที่รู้จักจากแพลตฟอร์มโซเชียลมีเดีย เช่น Facebook, Instagram, WhatsApp และ Oculus แม้ว่าบริษัทจะเผชิญกับคำวิจารณ์เกี่ยวกับปัญหาความเป็นส่วนตัวตั้งแต่เรื่องอื้อฉาว Cambridge Analytica ข้อมูลที่ผิดพลาดที่แพร่กระจายไปทั่วทั้งแพลตฟอร์ม และข้อกังวลด้านการต่อต้านการผูกขาดโดยทั่วไป แต่ Meta ก็ได้ก้าวไปอีกขั้นเพื่อเพิ่มความโปร่งใสในปีที่ผ่านมา โดยเฉพาะอย่างยิ่งเกี่ยวกับการกำหนดเป้าหมายโฆษณาไปยังผู้ใช้

Meta ได้เปลี่ยนโฟกัสไปที่การเป็นบริษัทพัฒนา AI ที่ใหญ่ที่สุดแห่งหนึ่งในโซเชียลมีเดียและเว็บ ในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 Meta ได้ประกาศถึงความพยายามที่จะขีดเส้นแบ่งระหว่างความเป็นจริงกับภาพและวิดีโอที่สร้างโดย AI บนแพลตฟอร์มของตน การเคลื่อนไหวนี้จะแจ้งให้ผู้ใช้ทราบเมื่อมีการสร้างเนื้อหาที่เหมือนจริงด้วย AI ในเดือนมิถุนายน 2024 บริษัทได้ประกาศแผนที่จะเปิดตัวแชทบอทปัญญาประดิษฐ์ฟรีบนแพลตฟอร์มการส่งข้อความ WhatsApp เพื่อเป็นกลยุทธ์ในการสร้างรายได้ นอกจากนี้ยังอยู่ระหว่างการพัฒนา Meta AI หลายภาษาสำหรับ Facebook และ Instagram อีกด้วย (ปัจจุบัน Meta Platforms มีมูลค่าตามราคาตลาด $1.23 trillion)

6. Tesla (TSLA)

Tesla

Source: https://www.nytimes.com/2018/09/17/business/tesla-stock-shorts.html

ยี่สิบปีหลังจากที่ Tesla ก่อตั้งขึ้นโดยมีวิสัยทัศน์ในการปฏิวัติอุตสาหกรรมยานยนต์ด้วยเทคโนโลยี ยานพาหนะ Model 3 ของบริษัทได้กลายเป็นรถยนต์ไฟฟ้าแบบเสียบปลั๊กที่ขายดีที่สุดตลอดกาล Tesla ยังขยายธุรกิจออกไปไกลกว่าภาคยานยนต์ โดยกลายเป็นหนึ่งในผู้จัดหาระบบจัดเก็บพลังงานจากแบตเตอรี่และแผงโซลาร์เซลล์ที่ใหญ่ที่สุดในโลก

นวัตกรรมที่โดดเด่นของ Tesla ได้แก่ รถยนต์ที่ขับเคลื่อนด้วยตัวเองและหุ่นยนต์สองขา ซึ่งทั้งสองอย่างนี้ใช้เทคโนโลยี AI ในการตรวจจับสภาพแวดล้อมและเหตุการณ์ต่างๆ เพื่อควบคุมตนเองโดยมีการแทรกแซงจากมนุษย์เพียงเล็กน้อย ซีอีโอ Elon Musk ได้เปิดเผยแผนการสำหรับยานพาหนะรุ่นต่อไปในช่วงครึ่งหลังของปี 2025 และกำลังหารือเกี่ยวกับการลงทุนมูลค่า 5 พันล้านดอลลาร์ใน xAI กับคณะกรรมการของ Tesla (ปัจจุบัน Tesla มีมูลค่าตามราคาตลาด $663.43 billion)

7. Adobe (ADBE)

Adobe

Source: https://www.tipranks.com/news/article/adobe-nasdaqadbe-a-prime-pick-for-2024-despite-strong-gains-last-year

Adobe ก่อตั้งขึ้นในเดือนธันวาคม 1982 โดย John Warnock และ Charles Geschke บริษัทเป็นที่รู้จักมากที่สุดจากผลิตภัณฑ์ซอฟต์แวร์สร้างสรรค์ที่หลากหลาย เช่น Photoshop, Illustrator, Premiere Pro, Acrobat และ Creative Cloud เป็นต้น ซอฟต์แวร์เหล่านี้ถูกใช้กันอย่างแพร่หลายโดยทั้งมืออาชีพและมือสมัครเล่นสำหรับงานออกแบบกราฟิก การตัดต่อวิดีโอ การพัฒนาเว็บ และการสร้างสื่อดิจิทัล

บริษัทเคยวางแผนที่จะเข้าซื้อกิจการ Figma ในดีลมูลค่า 20 พันล้านดอลลาร์ ซึ่งประกาศในเดือนกันยายน 2022 แต่เนื่องจากการคัดค้านในยุโรปเกี่ยวกับข้อกังวลเรื่องการผูกขาด ดีลนี้จึงถูกยกเลิกในเดือนธันวาคม 2023 การเปิดตัวล่าสุดของ Adobe คือโมเดลสร้างภาพด้วย AI รุ่นใหม่ Firefly 3 ซึ่งเปิดตัวในเดือนเมษายน 2024 โมเดลนี้มาพร้อมกับความสามารถในการสร้างภาพคุณภาพสูงและมีความเข้าใจในคำสั่งของผู้ใช้มากขึ้น

แม้ว่าบริษัทจะเผชิญกับกระแสวิพากษ์วิจารณ์เกี่ยวกับข้อกำหนดในการให้บริการและภาษาที่คลุมเครือเกี่ยวกับโมเดล AI ของ Adobe และข้อมูลที่ใช้ในการฝึกฝน แต่ Adobe ยังคงเปิดตัวเครื่องมือใหม่ๆ และฟีเจอร์ AI สร้างสรรค์ในซอฟต์แวร์ออกแบบ Illustrator และ Photoshop อย่างต่อเนื่อง (ปัจจุบัน Adobe มีมูลค่าตามราคาตลาด $247.88 billion)

8. IBM (IBM)

IBM

Source: https://www.blognone.com/node/119220

แม้ว่าปัญญาประดิษฐ์อาจดูเหมือนเป็นเรื่องใหม่สำหรับหลายๆ คน แต่หนึ่งใน “Big 5” ของบริษัท AI อย่าง IBM ได้มีการสร้างสรรค์นวัตกรรมมาเป็นเวลาหลายทศวรรษแล้ว ในช่วง 110 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้ง IBM ได้เป็นเสาหลักของอุตสาหกรรมเทคโนโลยีมาโดยตลอด ผลิตนวัตกรรมที่กลายเป็นส่วนหนึ่งของชีวิตประจำวัน เช่น บาร์โค้ด ฮาร์ดดิสก์ไดรฟ์ และคอมพิวเตอร์ส่วนบุคคล แพลตฟอร์ม Watson ที่สามารถตอบคำถามได้ซึ่งพัฒนาขึ้นในช่วงปี 2004-2011 สามารถถือเป็นเทคโนโลยี AI ภาษารุ่นแรกที่ได้รับความนิยมทั่วโลกจากชัยชนะในรายการแข่งขัน Jeopardy! ในปี 2011 นับตั้งแต่นั้นมา ความสามารถด้านการเรียนรู้เชิงลึกของ Watson ได้ถูกนำไปใช้ในหลากหลายอุตสาหกรรม เช่น การดูแลสุขภาพ การทำอาหาร การบริการ การอนุรักษ์น้ำ และอื่นๆ อีกมากมาย

ในช่วงห้าปีที่ผ่านมาเพียงอย่างเดียว IBM ได้กลายเป็นหนึ่งในบริษัท AI ชั้นนำของโลก โดยได้ยื่นคำขอจดสิทธิบัตรในสหรัฐฯ ที่เกี่ยวข้องกับ AI ถึง 1,591 ฉบับ ในเดือนเมษายน 2024 IBM ประกาศการเข้าซื้อกิจการ HasiCorp ด้วยมูลค่า 6.4 พันล้านดอลลาร์ เพื่อเสริมความสามารถด้านคลาวด์ของบริษัท การลงทุนใน AI ของ IBM ได้รับผลตอบแทนในไตรมาสที่ 2 ของปี 2024 โดยมีรายได้เพิ่มขึ้น 4% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว และเพิ่มขึ้น 8% เมื่อเทียบกับปีที่แล้วในกลุ่มซอฟต์แวร์ของ IBM (ปัจจุบัน IBM มีมูลค่าตามราคาตลาด $174.20 billion)

9. Palantir (PLTR)

Palantir

Source: https://www.bloomberg.com/news/articles/2023-05-09/palantir-sees-record-demand-for-new-ai-tool-here-s-what-it-does?embedded-checkout=true

Palantir Technologies เชี่ยวชาญด้านการวิเคราะห์ข้อมูลขนาดใหญ่ผ่านสามแพลตฟอร์มซอฟต์แวร์หลักสำหรับภาครัฐและเอกชน แต่ละแพลตฟอร์มใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการเข้าถึงข้อมูลและเสริมสร้างความสัมพันธ์ระหว่างจุดข้อมูล หน่วยงานข่าวกรองของสหรัฐอเมริกาใช้ Palantir Gotham ในการรวบรวมข้อมูลเพื่อวัตถุประสงค์ด้านความมั่นคงแห่งชาติ รวมถึงระบบคาดการณ์การเกิดอาชญากรรม Palantir Metropolis เรียนรู้และเปิดเผยความสัมพันธ์ระหว่างจุดข้อมูลในฐานข้อมูลภาครัฐและเอกชน และใช้ในอุตสาหกรรมการเงินเป็นหลัก โดยที่รู้จักกันมากที่สุดคือการใช้งานโดย JP Morgan Chase เพื่อตรวจสอบพนักงาน Palantir Foundry เป็นระบบที่มีความยืดหยุ่นที่ผสานรวมข้อมูลและสามารถตัดสินใจโดยใช้กระบวนการสร้างสรรค์

จนถึงปี 2024 Palantir ได้สร้างความร่วมมือกับ Starlab Space ในฐานะผู้ให้บริการซอฟต์แวร์ที่ขับเคลื่อนด้วย AI แต่เพียงผู้เดียวขององค์กรเพื่อเพิ่มประสิทธิภาพสถาปัตยกรรมอวกาศ, TES Forge เพื่อขับเคลื่อนการลดคาร์บอนทั่วโลก, หน่วยงานโครงการวิจัยขั้นสูงเพื่อใช้ AI/ML เพื่อเร่งผลลัพธ์ด้านสุขภาพ และองค์กรสำคัญอื่นๆ อีกหลายแห่ง (ปัจจุบัน Palantir มีมูลค่าตามราคาตลาด $62.50 billion)

10. Mobileye (MBLY)

Mobileye

Mobileye เป็นอีกหนึ่งบริษัทที่เน้นการใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการขับขี่อัตโนมัติและระบบช่วยเหลือผู้ขับขี่ขั้นสูง เทคโนโลยีของบริษัทถูกใช้งานในรถยนต์ทั่วโลกผ่านความร่วมมือระดับสูงกับ Ford, Volkswagen, และ Porsche รวมถึงผู้ผลิตรถยนต์อื่น ๆ อีก 25 ราย ผลิตภัณฑ์ของ Mobileye รวมถึงระบบช่วยควบคุมช่องทางเดินรถ ระบบเบรกฉุกเฉินอัตโนมัติ และการเตือนการชนด้านหน้า ทั้งหมดนี้มุ่งเน้นที่การเพิ่มความสะดวกและความปลอดภัยในการขับขี่ นับตั้งแต่ถูก Intel เข้าซื้อกิจการในปี 2017 บริษัทได้เติบโตอย่างมากและขยายขอบเขตนวัตกรรมในเทคโนโลยี AI ขับเคลื่อนอัตโนมัติต่อไป

ในเดือนกรกฎาคม 2024 Volkswagen AG ได้มอบรางวัลอันทรงเกียรติ Volkswagen Group Award 2024 ให้แก่ซัพพลายเออร์ชั้นนำ 10 ราย รวมถึง Mobileye ในด้านดิจิทัลไลเซชั่น เพื่อยกย่องความร่วมมือที่ยอดเยี่ยมและความสำเร็จร่วมกัน รางวัลนี้เน้นย้ำถึงความสำคัญของความร่วมมือที่แข็งแกร่ง โดย Volkswagen เน้นย้ำถึงประเพณีการร่วมมือและความสำเร็จร่วมกันกับซัพพลายเออร์ที่มีมา 20 ปี แม้ว่าจะเริ่มต้นปีได้อย่างแข็งแกร่ง แต่เมื่อวันที่ 1 สิงหาคม Mobileye ได้ลดการคาดการณ์รายได้และกำไรประจำปี เนื่องจากความต้องการที่ผันผวนในจีนและตลาดยานยนต์ทั่วโลกที่ซบเซา Mobileye คาดว่าปริมาณการจัดส่งในปี 2024 จะอยู่ที่ระหว่าง 28 ถึง 29 ล้านหน่วย แทนที่จะเป็น 31 ถึง 33 ล้านหน่วยตามที่คาดการณ์ไว้เดิม (ปัจจุบัน Mobileye มีมูลค่าตามราคาตลาด $12.87 billion)

11. Dynatrace (DT)

Dynatrace

Dynatrace Software Intelligence Platform ซึ่งขับเคลื่อนด้วยเทคโนโลยี AI เฉพาะของบริษัทที่ชื่อว่า Davis ถูกใช้งานในผลิตภัณฑ์ของบริษัทใหญ่ๆ อย่าง Amazon, Google และ Microsoft แพลตฟอร์มนี้ทำหน้าที่ตรวจสอบซอฟต์แวร์และใช้ปัญญาประดิษฐ์ในการตรวจจับปัญหา ค้นหาความผิดปกติ และตรวจสอบประสิทธิภาพ เมื่อพบปัญหา ซอฟต์แวร์สามารถสร้างและดำเนินการแก้ไขปัญหาด้วยตนเองโดยไม่ต้องมีการแทรกแซงจากมนุษย์

ในปี 2024 Dynatrace ได้กระชับความสัมพันธ์กับ Google, Microsoft, และ Amazon ให้แน่นแฟ้นยิ่งขึ้น ในเดือนเมษายน 2024 Dynatrace ได้ขยายความร่วมมือกับ Google Cloud โดยมีเป้าหมายเพื่อเร่งการนำโซลูชันของ Dynatrace และ Google Cloud มาใช้ นอกจากนี้ บริษัทยังได้รับรางวัลในงานประกาศผลรางวัล Microsoft Americas Partner of the Year Awards ประจำปี 2024 และในเดือนกรกฎาคม 2024 Dynatrace ได้กลายเป็นพันธมิตร AWS รายแรกที่บูรณาการกับ AWS Application Migration Service (ปัจจุบัน Dynatrace มีมูลค่าตามราคาตลาด $12.31 billion)

12. SentinelOne (S)

SeninelOne

SentinelOne กลายเป็นผู้นำในอุตสาหกรรมด้วยการใช้พลังของ AI สำหรับซอฟต์แวร์ความปลอดภัยทางไซเบอร์รุ่นต่อไป เทคโนโลยี AI ของบริษัทสามารถตรวจจับการใช้งานที่ผิดปกติในอุปกรณ์เอนด์พอยต์และหยุดกระบวนการก่อนที่ไวรัสหรือผู้ไม่ประสงค์ดีจะแพร่กระจายไปทั่วเครือข่าย กลุ่มลูกค้าของบริษัทประกอบด้วยแบรนด์ชั้นนำอย่าง Samsung, Aston Martin, Politico, EA, และ Sysco โดยผลิตภัณฑ์ของ SentinelOne ได้ฝังตัวอยู่ในหลากหลายอุตสาหกรรมและภาคส่วนต่าง ๆ ในเดือนมกราคม 2024 SentinelOne ประกาศการเข้าซื้อกิจการ PingSafe ซึ่งเป็นแพลตฟอร์มการปกป้องแอปพลิเคชันบนคลาวด์ (CNAPP) การเข้าซื้อกิจการนี้มีเป้าหมายเพื่อยกระดับข้อเสนอด้านความปลอดภัยของ SentinelOne ให้ดียิ่งขึ้น ในวันที่ 12 กรกฎาคม บริษัทได้ประกาศการขยายความสามารถด้านความปลอดภัยทางไซเบอร์และฐานลูกค้าผ่านความร่วมมือกับ Aon โดยใช้ประโยชน์จากแพลตฟอร์ม Singularity เพื่อเพิ่มความสามารถของ Aon ในการประเมินและบรรเทาความเสี่ยงทางไซเบอร์ผ่านการป้องกันเชิงรุก การตรวจจับ และการตอบสนองต่อภัยคุกคามทางไซเบอร์ (ปัจจุบัน SentinelOne มีมูลค่าตามราคาตลาด $6.36 billion)

13. UiPath (PATH)

Uipath

ฟังก์ชันที่เป็นตัวกำหนดของซอฟต์แวร์การทำงานอัตโนมัติด้วยหุ่นยนต์ (RPA) ของ UiPath คือการทำงานประจำในธุรกิจให้เป็นอัตโนมัติผ่าน AI และการเรียนรู้ของเครื่อง อย่างไรก็ตาม ในช่วง 18 ปีนับตั้งแต่ก่อตั้งบริษัท ความสามารถของซอฟต์แวร์ได้ขยายตัวอย่างมาก และตอนนี้สามารถดำเนินการจัดการลูกค้าสัมพันธ์ (CRM) และอื่นๆ ได้ในระดับมหาศาล ภาพทางการเงินของ UiPath ก็เติบโตตามไปด้วย โดยทำ IPO ซอฟต์แวร์ที่ใหญ่ที่สุดครั้งหนึ่งในประวัติศาสตร์ของสหรัฐอเมริกา ด้วยการเข้าซื้อกิจการ Re:infer

ในเดือนกรกฎาคม 2022 บริษัทได้เพิ่มการประมวลผลภาษาธรรมชาติ (NLP) เข้าไปในคลังแสงปัญญาประดิษฐ์ของตน

ในเดือนเมษายน 2024 บริษัทได้รับการจัดอันดับให้เป็นผู้นำใน Gartner® Magic Quadrant™ สำหรับ Process Mining ซึ่งเป็นเครื่องมือในการระบุระบบอัตโนมัติและปรับปรุงกระบวนการทางธุรกิจแบบครบวงจร เมื่อวันที่ 9 กรกฎาคม UiPath ประกาศการปรับโครงสร้างบริษัทครั้งใหญ่เพื่อเพิ่มประสิทธิภาพและลดต้นทุน โดยวางแผนที่จะลดจำนวนพนักงานลง 10% ปัจจุบันบริษัทกำลังเผชิญกับการฟ้องร้องดำเนินคดีแบบกลุ่มจากผู้ถือหุ้นซึ่งเชื่อว่าราคาหุ้นถูกปั่นให้สูงเกินจริง ซึ่งยื่นฟ้องในเดือนมิถุนายน 2024 ผลกระทบของการฟ้องร้องนี้ต่อประสิทธิภาพของบริษัทจะเป็นอย่างไรนั้นยังคงต้องติดตามต่อไป (ปัจจุบัน UiPath มีมูลค่าตามราคาตลาด $6.53 billion)

14. Aurora Innovation (AUR)

Aurora

Aurora Innovation ก่อตั้งโดยผู้บริหารจาก Google, Tesla, และ Uber เป็นอีกหนึ่งในบริษัทชั้นนำด้าน AI ที่พัฒนาโซลูชันยานยนต์ขับเคลื่อนอัตโนมัติ บริษัทมีวิสัยทัศน์ในการสร้างกองยานยนต์อัตโนมัติสำหรับการใช้งานต่าง ๆ รวมถึงการขนส่งสินค้าและการแชร์รถยนต์ Fiat Chrysler, Toyota, และ Volvo เป็นเพียงบางส่วนของผู้ผลิตที่ใช้เทคโนโลยี Aurora Driver

ในปี 2022 บริษัทได้ประกาศเปิดตัวแพลตฟอร์ม Aurora Beacon เพื่อช่วยให้ผู้ใช้เพิ่มเวลาการทำงานและแก้ไขปัญหาการเพิ่มประสิทธิภาพของกองยาน นอกจากนี้ยังขยายโครงการนำร่องกับ FedEx เพื่อแนะนำเทคโนโลยีขับเคลื่อนอัตโนมัติสู่ภาคการขนส่ง ในปี 2023 บริษัทได้เปิดเผยแผนการที่จะเริ่มเส้นทางรถบรรทุกไร้คนขับเชื่อมต่อระหว่างดัลลัสและฮิวสตันภายในสิ้นปี 2024

เมื่อต้นปี 2024 Aurora ได้สรุปการออกแบบรถบรรทุก สถาปัตยกรรม และฮาร์ดแวร์สำหรับการผลิตรถบรรทุกกึ่งอัตโนมัติไร้คนขับในอนาคต โดยความร่วมมือกับ Continental ผู้จัดหาชิ้นส่วนยานยนต์จากเยอรมนี ซึ่งจะเริ่มผลิตในปี 2027 ในเดือนพฤษภาคม 2024 ที่งาน ACT Expo ในลาสเวกัส บริษัทและ Volvo ได้ประกาศเปิดตัวรถบรรทุกอัตโนมัติ Volvo VNL Autonomous ซึ่งเป็นรถบรรทุกขนส่งสินค้าไร้คนขับพร้อมผู้ควบคุมความปลอดภัยที่เป็นมนุษย์ ซึ่งมีกำหนดจะเริ่มวิ่งบนทางหลวงในช่วงฤดูร้อนนี้

เมื่อวันที่ 2 สิงหาคม 2024 Aurora Innovation ได้ประกาศว่าบริษัทสามารถระดมทุนได้ $483 ล้าน จากการเสนอขายหุ้นสามัญต่อสาธารณะ ซึ่งสูงกว่าเป้าหมายที่ตั้งไว้ที่ $420 ล้าน (ปัจจุบัน Aurora innovation มีมูลค่าตามราคาตลาด $6.47 billion)

15. Tempus AI (TEM)

Temmpus

Source: https://www.reuters.com/markets/deals/tempus-ai-shares-jump-8-nasdaq-debut-2024-06-14/

Tempus AI ก่อตั้งขึ้นในปี 2015 โดย Eric Lefkofsky เป็นบริษัทเทคโนโลยีด้านสุขภาพที่ใช้ปัญญาประดิษฐ์เพื่อพัฒนาการแพทย์เฉพาะบุคคล โดยการให้บริการโซลูชันที่ขับเคลื่อนด้วย AI สำหรับการวินิจฉัยและการรักษาในสาขามะเร็งวิทยา โรคหัวใจ และโรคซึมเศร้า ในเดือนกรกฎาคม 2024 Tempus AI ยังคงขยายการทดสอบ AI ทางการแพทย์ของบริษัทอย่างต่อเนื่อง โดยได้ประกาศผลิตภัณฑ์ใหม่สำหรับการทดสอบความเสี่ยงด้านภูมิคุ้มกัน เข้าร่วมมือกับ United Therapeutics ในการวิจัยการตรวจหาโรคความดันโลหิตสูงในปอด ได้รับการรับรองจาก FDA สำหรับการทดสอบอัลกอริธึมที่ใช้ AI ในการตรวจหา AFib (ภาวะหัวใจห้องบนเต้นผิดจังหวะ) และขยายความร่วมมือกับ Remix Therapeutics ในการพัฒนายารักษาโมเลกุลขนาดเล็ก (ปัจจุบัน Tempus Ai มีมูลค่าตามราคาตลาด $6.43 billion)

แหล่งข้อมูล : https://www.stash.com/learn/top-ai-companies/

About Author