สวัสดีครับ วันนี้จะมาขอพูดถึง อีก หนึ่ง Trend ที่น่ากำลังจะมาในปี 2025 นี้ ก็คือ Spatial Computing ครับ มันคืออะไร Spatial Computing หรือถ้าจะให้แปลตรงๆ ตามภาษาไทย ก็คือ การคำนวณเชิงพื้นที่ เป็นเทคโนโลยีที่ผสมผสาน ทางกายภาพและดิจิทัล เข้าด้วยกัน ทำให้ผู้คนสามารถโต้ตอบกับเนื้อหาดิจิทัลในพื้นที่สามมิติได้ เทคโนโลยีนี้ใช้เทคโนโลยีขั้นสูง เช่น augmented reality (AR), Virtual reality (VR) mixed reality (MR) และปัญญาประดิษฐ์ (AI)ที่เรารู้จักกันในปัจจุบัน เพื่อสร้างประสบการณ์ให้เราเห็นซึ่งสภาพแวดล้อมแบบดิจิทัลและกายภาพผสมผสานกันอย่างลงตัว
เบื้องต้น ไอ้ที่ผมกล่าวมาผมจะขอ breakdown ให้เห็นวิธีการทำงาน และ องค์ประกอบของแต่ละส่วนครับ
- การทำแผนที่และการติดตามแบบ 3 มิติ
การคำนวณเชิงพื้นที่มักเกี่ยวข้องกับการสแกนและทำแผนที่สภาพแวดล้อมในโลกแห่งความเป็นจริงในสามมิติ อุปกรณ์ต่างๆ เช่น แว่น AR ชุดหูฟัง VR และอุปกรณ์พกพาบางประเภทสามารถรวบรวมข้อมูลเชิงพื้นที่เพื่อทำความเข้าใจเค้าโครง วัตถุ และพื้นผิวในห้อง การทำแผนที่นี้ช่วยให้องค์ประกอบดิจิทัลสามารถ “โต้ตอบ” กับโลกแห่งความเป็นจริงได้ - การใช้ AR,VR และ MR มาเชื่อมกัน
เทคโนโลยี Augmented Reality (AR) ซ้อนทับเนื้อหาดิจิทัลบนโลกแห่งความเป็นจริง ตัวอย่างเช่น แอป AR บนโทรศัพท์และแท็บเล็ต หรืออุปกรณ์สวมใส่ เช่น Microsoft HoloLens
เทคโนโลยี Virtual Reality (VR) สร้างสภาพแวดล้อมดิจิทัลทั้งหมด ช่วยให้ผู้ใช้ดื่มด่ำไปกับโลกเสมือนจริงอย่างสมบูรณ์ เช่น การตั้งค่า VR สำหรับการเล่นเกม
เทคโนโลยี Mixed Reality (MR) ผสมผสานคุณลักษณะของทั้งสองเข้าด้วยกัน ทำให้วัตถุดิจิทัลสามารถอยู่ร่วมกันและโต้ตอบกับโลกแห่งความเป็นจริงได้ในลักษณะที่ดูไร้รอยต่อและโต้ตอบได้ - Spatial Awareness and Interaction
หรือถ้าแปลเป็นไทย ก็ เรียกว่า การรับรู้เชิงพื้นที่ และการโต้ตอบ โดย อุปกรณ์ต่างๆ จะสามารถ “เข้าใจ” สภาพแวดล้อมได้ด้วยการใช้ประโยชน์จากเซ็นเซอร์ กล้อง และการทำแผนที่เชิงพื้นที่ การรับรู้เชิงพื้นที่นี้ช่วยให้ผู้ใช้สามารถโต้ตอบกับวัตถุดิจิทัลได้อย่างเป็นธรรมชาติ ตัวอย่างเช่น คุณสามารถเคลื่อนย้าย หมุน หรือปรับขนาดวัตถุดิจิทัลที่วางอยู่บนโต๊ะจริงได้โดยใช้ท่าทางหรือตัวควบคุม - AI และ Machine Learning
การเอา AI และ ML มาใช้ในปัจจุบันเป็นเรื่องที่นิยมแพร่หลาย และในส่วนของ Spatial Computing มักถูกผสานรวมเข้ากับการประมวลผลเชิงพื้นที่เพื่อประมวลผลข้อมูลภาพ ทำความเข้าใจเจตนาของผู้ใช้ และปรับเนื้อหาดิจิทัลให้เหมาะสม ซึ่งช่วยให้ระบบจดจำวัตถุ ระบุการกระทำ และแม้แต่คาดการณ์การโต้ตอบเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของผู้ใช้
ขอยกตัวอย่าง Application ของ Spatial Computing ซึ่งประกอบด้วยหลาย อุตสาหกรรม
1. อุตสาหกรรมความบันเทิงและการเล่นเกม: เกม AR และ VR นำเสนอประสบการณ์ที่ดื่มด่ำแบบใหม่โดยให้ผู้เล่นโต้ตอบกับองค์ประกอบดิจิทัลราวกับว่าพวกเขาอยู่ในสถานที่ทางกายภาพเดียวกัน
2. การดูแลสุขภาพ(health care): ศัลยแพทย์ใช้การคำนวณเชิงพื้นที่เพื่อดูแบบจำลอง 3 มิติของอวัยวะ ช่วยในขั้นตอนที่ซับซ้อนและปรับปรุงความแม่นยำ
3. การค้าปลีกและอีคอมเมิร์ซ: การลองเสื้อผ้า เฟอร์นิเจอร์ หรือแม้แต่ภายในรถยนต์แบบเสมือนจริงกำลังได้รับความนิยมด้วยการคำนวณเชิงพื้นที่ ช่วยให้ลูกค้าตัดสินใจซื้อได้ดีขึ้น
4. อสังหาริมทรัพย์และการออกแบบภายใน: ผู้ซื้อที่สนใจสามารถทัวร์ชมอสังหาริมทรัพย์แบบเสมือนจริง และนักออกแบบสามารถจินตนาการถึงเฟอร์นิเจอร์และการตกแต่งในพื้นที่จริงได้คิดว่าท่านผู้ชมน่าจะได้รับความรู้เกี่ยวกับ Spatial Computing กันแล้วนะครับ สามารถ กดติดตามเราได้ ตาม ช่องทาง social และเว็บ yod.net ได้ครับ