ทุกวันนี้ในโลกดิจิตัล เทรนด์ที่กำลังมาแรงเห็นจะเป็น sustainability หรือเรียกกันว่า ความยั่งยืน ค่ะ ดังนั้นบทความนี้เราจะขอพูดเรื่อง sustainability นะคะ
พวกเราอาศัยอยู่บนโลก ดังนั้นหน้าที่รับผิดชอบของทุกคนก็คือการช่วยดูแลรักษา แต่ปัจจุบันนี้ เกินกว่า 1.5 เท่าของความจุทรัพยากรธรรมชาติของโลกถูกใช้งานตลอดเวลา และเป็นที่คาดการณ์ว่าภายในช่วงทศวรรษหน้า เราจะใช้งานทรัพยากรโลกเป็นจำนวน 200% นี่ไม่เรียกว่ายั่งยืนอย่างแน่นอน
สำหรับองค์กรต่าง ๆ sustainability ก็เป็นสิ่งสำคัญเช่นเดียวกัน จากการวิจัยแล้ว sustainability เป็นตัวขับเคลื่อนผลกำไร องค์กรต่าง ๆ จึงควรร่วมมือช่วยกันจัดการภัยคุกคามใด ๆ ก็ตามต่อ sustainability และเพื่อบรรลุเป้าหมายด้าน sustainability นี้ เราสามารถใช้ประโยชน์จากข้อมูลและ AI ได้ จากที่ ChatGPT แนะนำ โดยเราจะสามารถรับข้อมูลเชิงลึก และระบบอัตโนมัติที่สามารถช่วยเพิ่มประสิทธิภาพการใช้ทรัพยากร, ลดของเสีย, และลดผลกระทบของกิจกรรมของมนุษย์ต่อสิ่งแวดล้อม เช่น การใช้ข้อมูลและ AI ในการเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในอาคาร, คาดการณ์และป้องกันการเสียหายของอุปกรณ์ในระบบอุตสาหกรรม, และตรวจสอบและจัดการทรัพยากรธรรมชาติ เช่น น้ำและป่าไม้ นอกจากนี้ Al ยังสามารถถูกใช้ในการวิเคราะห์ข้อมูลจำนวนมากจากเซ็นเซอร์และแหล่งข้อมูลอื่น ๆ สำหรับการทำความเข้าใจอย่างลึกซึ้งยิ่งขึ้นเกี่ยวกับสถานะของสิ่งแวดล้อมและผลกระทบของกิจกรรมของมนุษย์
สิ่งนี้สามารถช่วยระบุรูปแบบและระบุแนวโน้มที่สามารถบอกเราในวิธีการส่งเสริม sustainability ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของ decision-making และแนวทางในการดำเนินการ
10 สิ่งสำคัญที่องค์กรควรรู้คือ
- การเติบโตและ sustainability ของธุรกิจนั้นเป็นสิ่งที่ไปด้วยกัน จากแรงกดดันเกี่ยวกับการเปิดเผยข้อมูล ESG (Environment, Social, และ Governance) ทำให้ ESG ไม่สามารถต่อรองกับผู้บริโภคได้มากขึ้นเรื่อย ๆ เพื่อผลักดันการมีส่วนร่วมและความภักดีของลูกค้า บริษัทต่าง ๆ ควรคำนึงถึงเรื่อง sustainability เป็นเรื่องแรก ๆ ของกลยุทธ์ด้านข้อมูลของตน
- บริษัทต่าง ๆ กำลังรวม ESG เข้ากับกลยุทธ์องค์กรของตนมากขึ้นเรื่อย ๆ ซึ่งโดยปกติแล้ว ข้อมูลที่จำเป็นจะไม่ถูกบันทึกโดยกระบวนการและระบบแบบเดิม ๆ ซีอีโอจึงจำเป็นต้องระบุธุรกิจภายในและข้อมูลผลกระทบใหม่ที่พวกเขาจะใช้เพื่อสร้างการวัดความก้าวหน้าและความสำเร็จที่แท้จริงตั้งแต่เนิ่น ๆ นโยบายจากบนลงล่างที่ส่งเสริมการรู้ข้อมูลและ sustainability จะช่วยให้ธุรกิจพร้อมสำหรับอนาคต
- ความกังวลในระยะสั้นไม่จำเป็นต้องขัดแย้งกับเป้าหมายระยะยาวด้าน sustainability จริงอยู่ที่กำไรเป็นปัจจัยมาตรฐานเริ่มต้นของความสำเร็จ แต่บริษัทต่าง ๆ ได้เริ่มเปลี่ยนแปลงกลยุทธ์ด้านข้อมูลเพื่อสนับสนุนปัจจัยสำคัญทั้งสามประการ คือ กำไร, ผู้คน, และโลก และเพื่อตอบสนองความต้องการของผู้บริโภคยุคใหม่ หลาย ๆ บริษัทกำลังเผชิญความท้าทายในการอยู่รอดระยะสั้นในตลาดปัจจุบันและด้านมูลค่าทางการเงิน ด้วยมีวิกฤตค่าครองชีพ, ความตึงเครียดระหว่างประเทศที่เพิ่มขึ้น, อัตราเงินเฟ้อที่สูง, และอัตราดอกเบี้ยที่เพิ่มขึ้น ดังนั้รการมองเห็นข้อมูลที่ดีขึ้นและการใช้ข้อมูลอย่างกว้างขึ้นสามารถช่วยได้
- ค่าตอบแทนและการมีส่วนร่วมขับเคลื่อนพฤติกรรมของมนุษย์ ดังนั้นจึงมักมีความต้องการในการผูกแรงจูงใจและโบนัสของผู้นำระดับสูงเข้ากับการบรรลุเป้าหมาย ESG ที่เกี่ยวข้องในการจัดตั้งองค์กร ESG ในองค์กรขนาดใหญ่ และก็ยังมองหาวิธีการรวมสิ่งเหล่านี้ทั่วทั้งองค์กรด้วย จากการสำรวจล่าสุดโดย Adobe sustainability ในที่ทำงานเป็นสิ่งที่พนักงาน 32% คิดว่าสมควรต้องมี พนักงานจะภาคภูมิใจมากขึ้นหากบริษัทตนมีการจัดตั้งโปรแกรม ESG ซึ่งนี่เป็นปัจจัยขับเคลื่อนที่สำคัญของการดำเนินงานด้าน sustainability และสามารถมีผลกระทบเชิงบวกต่อธุรกิจโดยรวม
- ความท้าทายที่แท้จริงคือการจัดการเกี่ยวกับ sustainability ในขณะที่ทำ gap analysis บริษัทจำเป็นต้องมีแพลตฟอร์มข้อมูลที่ช่วยให้สามารถวางแผนการลดผลกระทบ, เปลี่ยนแปลงกระบวนการทางธุรกิจ, และส่งมอบผลลัพธ์ที่ดีขึ้นสำหรับสิ่งแวดล้อม
- การบรรลุ net zero ต้องใช้เวลา ซึ่งเริ่มต้นด้วย IT ที่ยั่งยืน ขณะนี้เราอยู่ในยุคสองของ Machine Age หรือบางครั้งเรียกว่าการปฏิวัติอุตสาหกรรมครั้งที่สี่ ดังนั้นการพบเจอเทคโนโลยีใหม่ ๆ ในชีวิตประจำวันจึงเป็นสิ่งที่หลีกเลี่ยงไม่ได้ การออกแบบระบบไอทีโดยคำนึงถึง sustainability จึงเป็นสิ่งสำคัญอย่างยิ่ง เช่น การใช้โครงสร้างพื้นฐานข้อมูลที่สามารถปรับขนาดทรัพยากรการประมวลผลให้ขึ้นหรือลงเพื่อรองรับความต้องการที่ผันผวน จะประหยัดพลังงานมากกว่าคลังข้อมูลที่มีขนาดตามข้อกำหนด
- เราควรใช้ข้อมูลที่ตนมีอยู่แล้ว เพราะข้อกำหนดในการรวบรวมและการเปิดเผยข้อมูลมีการเปลี่ยนแปลงอยู่เสมอและโอกาสที่จะรวบรวมข้อมูลเพิ่มเติมก็มีอยู่ตลอดเช่นเดียวกัน สิ่งสำคัญจึงเป็นการดำเนินการกับข้อมูลที่มีอยู่แล้ว ซึ่งหากเราอยากมั่นใจว่าข้อมูลสามารถถูกนำไปปฏิบัติได้ ก็ควรต้องทำการทำให้ข้อมูลอยู่ภายใต้การควบคุมแต่สามารถเข้าถึงได้ เพื่อผลักดันให้ทั้งบริษัทมีการรู้ข้อมูลและการแบ่งปันข้อมูลในที่ที่เหมาะสมกับฐานลูกค้า ซึ่งสำหรับการนี้ Snowflake มีบริการเพื่อทำให้ workflow ESG ง่ายขึ้น
- ธุรกิจต้องการการมองเห็น supply chain ที่ชัดเจน เนื่องจากอาจมีปัญหาเช่นหากซัพพลายเออร์หลายรายเชื่อมโยงกับ supply chain (“ซัพพลายเออร์ของซัพพลายเออร์ของฉันกับซัพพลายเออร์ของฉัน…”) กำลังใช้แนวทางปฏิบัติที่ต่อต้านสิ่งแวดล้อม หรือเรื่องที่ว่าบริษัทใดจะเป็นผู้รับผิดชอบภายใต้ข้อบังคับ CSRD หรือ Scope-3 สิ่งที่เกิดขึ้นคือบริษัทส่วนใหญ่ในปัจจุบันไม่สามารถมองเห็นห่วงโซ่อุปทานของตนในระดับนี้ได้ ซึ่งหากไม่มีการมองเห็นเชิงลึกนี้การรายงานก็จะไม่สมบูรณ์ บริษัทต่าง ๆ จึงจำเป็นต้องสร้างแนวทางปฏิบัติที่ช่วยให้เราสามารถแชร์ข้อมูลทั่วทั้ง value chain ด้วยวิธีที่โปร่งใส, ลื่นไหล, มีเวลาแฝงต่ำ, และอยู่ภายใต้การควบคุมอย่างเต็มที่ นอกจากข้อมูลภายในและข้อมูล supply chain แล้ว บริษัทต่าง ๆ ยังจำเป็นต้องดูแหล่งข้อมูลภายนอกหลายแห่ง เช่น ข้อมูลเชิงพื้นที่และภาพถ่ายดาวเทียม เพื่อดูภาพรวม ซึ่งต้องใช้ชุดข้อมูลประเภทต่าง ๆ กันในรูปแบบต่าง ๆ นี่หมายความว่าบทบาทของตลาดข้อมูลจะเติบโตมากขึ้นในอนาคต ซึ่งขณะนี้มีซัพพลายเออร์บางรายใน Snowflake Marketplace เช่น Versed.ai ที่เสนอการมองเห็น supply chain หลายระดับ และ Snowflake Data Collaboration for the Climate Initiative จะช่วยให้ลูกค้ามีเฟรมเวิร์กในการมองเห็น supply chain ของตน
- gamification สามารถช่วยให้ stakeholder (ผู้ที่เกี่ยวข้อง) หลักมีส่วนร่วม บางองค์กรกำลังใช้ gamification เพื่อดึงดูด stakeholder ทั้งภายในและภายนอก ซึ่งอาจเป็นวิธีที่สร้างสรรค์ในการดึงดูดผู้คนให้มีส่วนร่วมกับ ESG target มากขึ้น คุณสามารถเริ่มสร้างแอป, เกม, และพอร์ทัล ตามข้อมูลต่าง ๆ ที่รวบรวมไว้เพื่อจัดการแข่งขันด้าน sustainability ระหว่างพนักงาน, ลูกค้า, และซัพพลายเออร์ของคุณ เช่นการที่ธนาคารแห่งหนึ่งใช้บริการของ Snowflake เพื่อทำงานร่วมกันในส่วนต่าง ๆ ของธุรกิจ (collaboration) อย่างทีม risk, ทีม retail, และทีม ESG เพื่อสร้างการวิเคราะห์เชิงลึกเกี่ยวกับ carbon footprint ของลูกค้า
- data mesh อาจเป็นกุญแจสำคัญในการทำความเข้าใจและการบรรลุเป้าหมายด้าน sustainability โดย data mesh คือสถาปัตยกรรมข้อมูลแบบกระจายอำนาจและรูปแบบการดำเนินงานซึ่งมีข้อมูลเป็นผลิตภัณฑ์ และทีมที่ใกล้ชิดกับข้อมูลนั้นมากที่สุดเป็นเจ้าของ และไม่ใช่โมเดลที่ข้อมูลถูกรวมศูนย์เข้าด้วยกันใน data lake หรือคลังข้อมูลแห่งเดียว ดังนั้นภายใน data mesh sustainability สามารถถูกกำหนดเป็น use case ที่สำคัญของการใช้งานข้ามสายงานสำหรับข้อมูล ซึ่งช่วยให้ทีมที่ใกล้ชิดกับข้อมูลนั้นเข้าใจความหมายของ sustainability ได้ดียิ่งขึ้น รวมถึงเข้าใจในสิ่งที่พวกเขาสามารถทำเพื่อช่วยรวบรวมและรักษาข้อมูล sustainability ที่มีคุณภาพสูงและเป็นที่น่าเชื่อถือได้