โซลูชัน Industrial IoT (IIoT) นับว่าเด่นระดับแนวหน้าของ Industry 4.0 อย่างการที่เครือข่ายเซ็นเซอร์และอุปกรณ์เชื่อมต่อได้ปฏิวัติวิธีที่อุตสาหกรรมสมัยใหม่ทำงาน และการที่บริษัทต่าง ๆ ใช้ประโยชน์จากข้อมูลที่เซ็นเซอร์และอุปกรณ์เหล่านี้ได้รวบรวมมาเพื่อทำการออกแบบให้เวิร์กโฟลว์, supply chain, โซลูชันคลังสินค้า, และเครือข่ายการขนส่งมีประสิทธิภาพ, ยืดหยุ่น, และทำกำไรได้มากขึ้น
ในบทความนี้ เราจะมาพูดถึงการใช้ IoT ในงานอุตสาหกรรม และจะยกตัวอย่าง use case การผลิตให้ 4 กรณี ให้ทุกคนได้ลองดูกันค่ะ
โซลูชัน industrial IOT กำลังขับเคลื่อนอุตสาหกรรม 4.0 อย่างไร
IIoT เรียกได้ว่าเป็นอนาคตของการผลิต ซึ่ง IIoT ประกอบด้วยเซนเซอร์หลายชนิด, เครื่องมือมากมาย, และอุปกรณ์อื่น ๆ ที่รวบรวมข้อมูลที่เป็นประโยชน์และส่งไปยังคลาวด์ผ่านทางอินเทอร์เน็ต
ประโยชน์บางส่วนที่อุตสาหกรรมการผลิตจะได้จากโซลูชัน Industrial IoT
ระบุปัญหาการควบคุมคุณภาพในเชิงรุก
ผู้ควบคุมคุณภาพสามารถตรวจจับข้อบกพร่องของวัสดุได้รวดเร็วยิ่งขึ้นจากการป้อนข้อมูลจากอุปกรณ์ IIoT อย่างอุณหภูมิ, ความชื้น การวัดที่แม่นยำ ภาพถ่าย และอื่น ๆ เข้าสู่โซลูชันการวิเคราะห์ IIoT ซึ่งเสริมการสังเกตของมนุษย์ในโรงงาน จึงทำให้ต้นทุนและความล่าช้าจากข้อผิดพลาดในการผลิตลดลง รวมถึงได้ผลิตภัณฑ์ที่ปราศจากข้อบกพร่องซึ่งสำหรับการดำเนินการด้านการผลิตใด ๆ นั้น เป็นสิ่งที่สำคัญมาก
เพิ่มความปลอดภัยในการทำงาน
ขณะทำการผลิตอยู่นั้นอาจมีอันตรายเกิดขึ้นได้เสมอ จึงควรใช้อุปกรณ์สวมใส่ที่สามารถติดตามระยะเวลาที่พนักงานรับสัมผัสกับอุณหภูมิในดีกรีที่สุดขีดเกินไป, ความตึงที่ข้อต่อ, และความใกล้ชิดกับอุปกรณ์อันตราย โดยหากตรวจพบสภาวะที่ไม่ดีต่อสุขภาพหรือเป็นอันตราย อุปกรณ์จะส่งการแจ้งเตือนไปยังผู้จัดการพร้อมด้วยข้อมูลที่จำเป็นเพื่อป้องกันการบาดเจ็บ
การปรับปรุงการวิเคราะห์ข้อมูล
ตัวข้อมูลที่ป้อนเข้าไปมีประโยชน์ในการริเริ่มการวิเคราะห์ทางอุตสาหกรรม บริษัทต่าง ๆ จะสามารถเข้าถึงข้อมูลที่มีค่าได้มากกว่าที่เคยด้วยความสามารถในการติดตามและตรวจสอบองค์ประกอบหลักของการจัดหา, การผลิต, และการขนส่ง และจะสามารถได้รับข้อมูลเชิงลึกอันล้ำค่าจากการรวบรวมแหล่งข้อมูลที่ทำให้เรามองเห็นได้อย่างครบถ้วนในทุกแง่มุมของกระบวนการ
การจับคู่ที่ไร้รอยต่อกับเครื่องมือที่ขับเคลื่อนด้วย AI
เซ็นเซอร์และอุปกรณ์ IIoT รวบรวมและส่งข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ประกอบไปด้วยรอบเวลา, ภาวะสภาพแวดล้อม, ความพร้อมใช้งานของชิ้นส่วน, สุขภาพของผู้ปฏิบัติงาน, คุณภาพของผลิตภัณฑ์ที่เสร็จแล้ว, และอื่น ๆ ได้ จึงเป็นขุมทรัพย์ข้อมูลขนาดใหญ่ที่แอปพลิเคชัน AI สามารถเรียกใช้ได้เพื่อช่วยผู้ผลิตระบุการเพิ่มประสิทธิภาพ, แก้ไขปัญหาคอขวดที่มีค่าใช้จ่ายสูง, และปรับปรุงความปลอดภัยสำหรับผู้ปฏิบัติงาน
การรวมระบบหุ่นยนต์อัจฉริยะ
หุ่นยนต์อัจฉริยะเป็นสิ่งที่พบเห็นได้มากขึ้นในด้านอุตสาหกรรม เครื่องจักรเหล่านี้ถูกใช้ในการทำงานด้วยความแม่นยำและรวดเร็วมากกว่าผู้ปฏิบัติงานที่เป็นมนุษย์ หรือถูกใช้สำหรับ task ในกระบวนการผลิตที่ถือว่าอันตรายหรือเปลืองแรงเกินไป
เพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงาน
อุปกรณ์ IIoT สามารถตรวจสอบการใช้พลังงานได้อย่างแข็งขัน ช่วยให้ผู้จัดการสามารถเพิ่มประสิทธิภาพการใช้เครื่องจักรที่ใช้พลังงานมาก นอกจากนี้ยังสามารถทำการแจ้งเตือนเมื่ออุปกรณ์ไม่ได้กำลังทำงานในระดับที่เหมาะสม เพื่อกระตุ้นให้ผู้ปฏิบัติงานทำการปรับเปลี่ยนหรือบำรุงรักษาจนเสร็จสิ้นเพื่อฟื้นฟูให้อุปกรณ์คอยอยู่ในประสิทธิภาพสูงสุด
use case ของ industrial IOT
แอปพลิเคชันสำหรับ IIoT มีอยู่มากมาย เราจึงจะมาแนะนำ use case ด้านการผลิต 4 กรณีที่เน้นการนำเทคโนโลยีนี้ไปใช้แก้ปัญหาต่างๆ
การบำรุงรักษาเชิงคาดการณ์
หากอุปกรณ์การผลิตทำงานผิดพลาด การผลิตในโรงงานจะหยุดชะงักและอาจทำให้ไม่สามารถส่งมอบผลิตภัณฑ์อย่างตรงเวลาได้ สำหรับการนี้เราจึงสามารถใช้เซ็นเซอร์ IIoT เพื่อคาดการณ์ว่าเมื่อใดเครื่องจักรที่มีความสำคัญต่องานจะต้องทำการบำรุงรักษา ทำให้สามารถวางแผนการหยุดทำงานได้อย่างมีกลยุทธ์ เซ็นเซอร์ที่ติดตั้งในเครื่องจักรจะรวบรวมและส่งข้อมูลบนสิ่งที่สร้างความหักโหมของอุปกรณ์ เช่น อุณหภูมิ, ความดัน, การสั่นสะเทือน, และรอบ (cycles) โดยป้อนเข้าสู่อัลกอริทึมการเรียนรู้ที่จะใช้ในการคาดการณ์ว่าเมื่อใดที่เครื่องจักรจะต้องได้รับการบริการบำรุงรักษา
การติดตามทรัพย์สิน
การรู้ว่าทรัพย์สินต่าง ๆ อย่างวัตถุดิบและสินค้าคงคลังอยู่ที่ใดสามารถช่วยให้ผู้วางแผนการผลิตคาดการณ์ล่วงหน้าในเชิงรุกและประมาณการความล่าช้าและอัปเดตวันจัดส่งวันใหม่แก่ลูกค้าได้ โดยการใช้แท็กการระบุด้วยคลื่นความถี่วิทยุ (RFID), เซ็นเซอร์, หรืออุปกรณ์สวมใส่ช่วยให้เหล่าผู้จัดการคลังสินค้าและ supply chain ได้รับข้อมูลอัปเดตอย่างต่อเนื่อง โดยมีข้อมูลตำแหน่งที่ตั้ง, สถานะปัจจุบัน, และความล่าช้าที่คาดไว้ ทำให้มีความยืดหยุ่นในการปรับเปลี่ยน port of entry, วิธีการจัดส่ง, หรือตัวผู้ให้บริการวัตถุดิบ เพื่อให้กำหนดการผลิตและการส่งมอบเป็นไปตามกำหนด
Digital twins
การใช้ข้อมูลที่รวบรวมจากเครือข่ายของอุปกรณ์ IIoT ทำให้โซลูชันการวิเคราะห์ IIoT สามารถสร้าง digital twin หรือตัวแทนเสมือนจริงของการดำเนินงานของโรงงานทั้งหมด ซึ่งสามารถทำการทดสอบการกำหนดค่าใหม่ของโรงงาน, ปรับเวิร์กโฟลว์, และอื่น ๆ ได้แบบเสมือนจริงโดยไม่ส่งผลกระทบต่อการผลิตจริง จึงช่วยให้ผู้มีอำนาจตัดสินใจสามารถมองหาวิธีใหม่ ๆ ในการเพิ่มประสิทธิภาพ
การควบคุมสภาพแวดล้อม
ผลิตภัณฑ์บางอย่างจำเป็นจะต้องอยู่ในสภาพแวดล้อมเฉพาะในระหว่างการผลิต จึงสมควรใช้เซ็นเซอร์วัดระดับอุณหภูมิและความชื้นที่สามารถแจ้งเตือนผู้ปฏิบัติงานถึงสภาวะที่ไม่เหมาะสมซึ่งอาจส่งผลเสียต่อคุณภาพของผลิตภัณฑ์ ตัวอย่างเช่น ระดับความชื้นที่สูงกว่าระดับปกติอาจก่อให้เกิดข้อบกพร่องในการทาสีหรือการเคลือบผิวได้
โซลูชัน industrial IOT ของ SNOWFLAKE
การลงทุนเชิงรุกใน IIoT ทำให้เกิดความต้องการพื้นที่จัดเก็บและพลังการประมวลผลที่เพียงพอสำหรับข้อมูลจำนวนมหาศาลที่ระบบเหล่านี้สร้างขึ้น แต่เมื่อมี Snowflake Data Cloud ที่ได้รับการออกแบบมาเพื่อรองรับโซลูชัน IoT ด้านการผลิตที่หลากหลาย เราจะสามารถทำให้เกิดนวัตกรรมและทำให้มีความทันสมัยขึ้นได้อย่างรวดเร็ว โดยใช้แพลตฟอร์มเดียวที่ทำหน้าที่เป็น hub ข้อมูล, data lake, และรากฐานสำหรับแอปพลิเคชันข้อมูล
Snowflake สำหรับการผลิตทำให้การรวมและเชื่อมโยงข้อมูลจากระบบควบคุมอุตสาหกรรม, เซ็นเซอร์, แอปพลิเคชัน, และระบบ IT ที่แตกต่างกันหลายระบบเป็นไปได้ง่ายเพื่อเพิ่มการมองเห็นการผลิต, อุตสาหกรรมพลังงาน 4.0 และการวิเคราะห์การผลิตอัจฉริยะ, และเพื่อปรับปรุงประสบการณ์ของลูกค้าในขณะที่สร้างกระแสรายได้ใหม่
