การเปิดตัวของ ChatGPT และ Gemini
OpenAI ที่ถูกเปิดตัวที่ทำให้ผู้คนทั่วโลกต่างรู้จักกันคือ ChatGPT ถูกเปิดตัวในเดือนพฤศจิกายน 2022 ซึ่งมาเป็นสิ่งที่จุดประกายให้ผู้คนสนใจ AI หรือ ปัญญาประดิษฐ์ ในการเปิดตัว ChatGPT ครั้งนี้ได้รับความสนใจอย่างมากจนทำให้ปัญญาประดิษฐ์ถือกำเนิด (GenAI) และกลายเป็นหัวข้อสำคัญในโลกเทคโนโลยีในปี 2023
Microsoft ให้การสนับสนุน OpenAI ในช่วงต้นปี 2023 โดยมีการทำสัญญาการลงทุนหลายล้านดอลลาร์ในระยะเวลาหลายปี เพื่อเร่งพัฒนาเทคโนโลยี AI ของ OpenAI
และทาง Google ได้เริ่มก้าวเข้าสู่ GenAI ในเดือนมีนาคม 2023 ด้วย Bard และในเดือนกุมภาพันธ์ 2024 Google ได้ทำการเปลี่ยนชื่อ Bard เป็น Gemini พร้อมกับเปิดตัว Version ที่ปรับปรุงและพัฒนาของ Chatbots AI
บทบาทสำคัญของ ChatGPT และ Gemini ในการขับเคลื่อนและพัฒนา GenAI
ChatGPT และ Gemini มีส่วนอย่างมากในการขับเคลื่อนและพัฒนา GenAI ซึ่งมีหลักการทำงานโดยใช้ข้อมูลจากโมเดลการเรียนรู้ของเครื่อง (machine learning models) เพื่อตอบคำถามและสร้างภาพ ข้อความ และวิดีโอ OpenAI และ Google กำลังพัฒนาโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLMs) ที่อยู่เบื้องหลัง ChatGPT และ Gemini อย่างต่อเนื่องเพื่อเพิ่มความสามารถในการสร้างข้อความที่เหมือนมนุษย์มากขึ้น
GenAI ยังคงพัฒนาอย่างรวดเร็ว และ Model เหล่านี้ไม่ได้ให้คำตอบที่ถูกต้องเสมอไป แม้ว่าจะเกิดการสับสน (AI hallucinations) หรือคำตอบผิดพลาดจาก AI ทั้งใน ChatGPT และ Gemini เป็นเรื่องปกติ แต่เครื่องมือเหล่านี้ก็ถูกนำมาใช้โดยธุรกิจและผู้บริโภคที่ต้องการอัตโนมัติงานที่ใช้เวลานาน
ทำความรู้จัก ChatGPT และ Gemini
ChatGPT คืออะไร?
ChatGPT เป็น Chatbots AI ที่ทำให้ GenAI เป็นที่นิยมในปี 2023 โดยมีผู้ใช้ถึง 1 ล้านคนภายในห้าวันหลังเปิดตัว Model Generative Pre-trained Transformer ที่ ChatGPT ใช้งาน สามารถตอบคำถามและทำงานหลายอย่างได้ ในดือนพฤษภาคม 2024 ChatGPT ได้ปล่อย version GPT-4o เป็นค่าเริ่มต้นใน version ฟรี และส่วนผู้ใช้ที่สมัครสมาชิก ChatGPT Plus, ChatGPT Team และ ChatGPT Enterprise จะมีการเข้าถึงที่การใช้งานที่มีประสิทธิภาพและ function การทำงานที่หลากหลายกว่า นอกจากนี้ยังมีคู่แข่งของ GPT-4 ที่สำคัญคือ Google Gemini Advanced
Gemini คืออะไร?
Gemini คือโมเดล GenAI ของ Google ที่พัฒนาโดย Google DeepMind ซึ่งใช้ในการขับเคลื่อนเครื่องมือ Bard GenAI และถูกเปลี่ยนชื่อเป็น Gemini ในปี 2024 มันสามารถตอบคำถามและดึงข้อมูลได้คล้ายกับผู้ช่วยอัจฉริยะ เช่น Alexa และ Siri Google Gemini เป็นมัลติโหมด และมีการผนวกเข้ากับบริการของ Google รวมถึง Google Workspace Gemini Advanced มีการสมัครสมาชิกในชื่อ Google One AI Premium และมีประสิทธิภาพสูงกว่า Gemini Pro ซึ่งยังคงให้ใช้ฟรี Google Gemini ยังมี Gemini Nano ที่ใช้ในสมาร์ทโฟน Pixel 8 Pro
เนื่องจาก Gemini ถูกพัฒนาโดย Google ทำให้สามารถใช้งานรวมกับแอป Google Workspace ได้ เช่น Docs, Gmail, Sheets, Slides และ Meet Gemini for Google Workspace เป็นชื่อใหม่ของ Duet AI for Google Workspace ซึ่งเป็นคำตอบของ Google ต่อผู้ช่วย AI Copilot ของ Microsoft Google Gemini สามารถเข้าถึงได้ผ่านแอปบนโทรศัพท์ Android และในแอป Google บน iOS
ความแตกต่างหลักระหว่าง ChatGPT และ Gemini
ChatGPT และ Google Gemini มีความคล้ายคลึงกันมากขึ้นเรื่อยๆ ทั้งคู่มีบริการฟรี บริการสมัครสมาชิกที่มีราคาคล้ายกัน และ Interface และการใช้งานที่คล้ายกัน ความแตกต่างส่วนใหญ่จะอยู่ในส่วนหลังบ้านของการพัฒนา machine learning models
ทั้งสองยังมี Function ที่คล้ายกันหลายอย่าง และทำงานโดยให้ผู้ใช้พิมพ์คำค้นหาเพื่อรับคำตอบ ทั้งคู่ก่อให้เกิดความกังวลด้านความเป็นส่วนตัวเกี่ยวกับวิธีการใช้ข้อมูลของผู้ใช้ อย่างไรก็ตาม ทั้ง 2 จะมีความแตกต่างกัน machine learning models ประสบการณ์ของผู้ใช้ และวิธีการจัดเก็บข้อมูล
ChatGPT และ Gemini ต่างเป็น Chatbots ที่มาเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญทางเทคโนโลยี ซึ่งมาช่วยให้การทำงานและการใช้ชีวิตผู้คนเปลี่ยนแปลงไป และทั้ง 2 ต่างถูกพัฒนาด้วยบริษัทยักษ์ใหญ่ทั้ง 2 บริษัททำให้การแข่งขันการพัฒนาในครั้งนี้มีความน่าสนใจและจับตามองเป็นอย่างมาก อย่างไรก็ตามการแข่งขันในครั้งนี้ก็ส่งผลดีต่อผู้ใช้งานทั้ง ChatGPT และ Gemini