การใช้เทคโนโลยี Blockchain มาจัดการระบบซื้อขายตั๋ว เพื่อป้องกันตั๋วผี

การขายตั๋วงานต่างๆ เช่น คอนเสิร์ต การแข่งขันกีฬา หรือการแสดงมักเจอปัญหาที่เรียกว่า “ตั๋วผี” ซึ่งเป็นการซื้อตั๋วในปริมาณมากเพื่อนำไปขายต่อในราคาที่สูงกว่าราคาจริง การกระทำเช่นนี้สร้างความไม่ยุติธรรมแก่ผู้ต้องการตั๋วจริงและสร้างความเสียหายแก่ผู้จัดงาน ในยุคดิจิทัล การใช้เทคโนโลยี blockchain เป็นหนึ่งในแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหานี้

Blockchain เป็นเทคโนโลยีที่สร้างระบบฐานข้อมูลที่ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้และเก็บข้อมูลแบบกระจาย การใช้งานหลักของ blockchain คือการทำธุรกรรมทางการเงิน เช่น Bitcoin แต่สามารถนำมาประยุกต์ใช้กับการจัดการและการติดตามข้อมูลอื่นๆ ได้เช่นกัน

ประโยชน์ของ Blockchain ในการป้องกันตั๋วผี

1. การตรวจสอบและการยืนยันตัวตน

Blockchain สามารถใช้ในการตรวจสอบและยืนยันตัวตนของผู้ซื้อและผู้ขายตั๋ว ทำให้แน่ใจได้ว่าตั๋วถูกขายให้กับบุคคลที่มีสิทธิ์เท่านั้น ซึ่งสามารถลดโอกาสในการซื้อขายตั๋วผีได้

2. การติดตามตั๋ว

ทุกการทำธุรกรรมตั๋วจะถูกบันทึกใน blockchain ทำให้สามารถติดตามประวัติการซื้อขายตั๋วได้ หากมีการขายตั๋วในราคาที่สูงกว่าราคาจริง ระบบสามารถตรวจสอบและบล็อกการทำธุรกรรมนั้นได้

3. การป้องกันการปลอมแปลงตั๋ว

ตั๋วที่สร้างขึ้นบน blockchain จะมีข้อมูลเฉพาะที่ไม่สามารถปลอมแปลงได้ การปลอมแปลงตั๋วจะยากขึ้นและตรวจพบได้ง่าย

4. การจำกัดการซื้อขาย

ผู้จัดงานสามารถกำหนดนโยบายเกี่ยวกับการซื้อขายตั๋ว เช่น การกำหนดจำนวนตั๋วที่สามารถซื้อได้ต่อคนหรือการจำกัดการขายต่อในราคาที่กำหนด ทำให้การขายตั๋วผีทำได้ยากขึ้น

Flow การทำงาน 

รายละเอียดเพิ่มเติมเกี่ยวกับการบันทึกการทำธุรกรรมลงใน Blockchain

การบันทึกการทำธุรกรรมลงใน Blockchain

1. การเข้ารหัสข้อมูล :

    – เมื่อผู้ใช้ทำการซื้อตั๋ว ข้อมูลการทำธุรกรรมทั้งหมด เช่น รหัสผู้ใช้ รายละเอียดการชำระเงิน และข้อมูลตั๋ว จะถูกเข้ารหัสเพื่อความปลอดภัย

    – การเข้ารหัสนี้ทำให้ข้อมูลเป็นเอกลักษณ์และไม่สามารถแก้ไขได้โดยง่าย

2. การเพิ่มบล็อกใหม่ :

    – ข้อมูลการทำธุรกรรมจะถูกสร้างเป็น “บล็อก” ใหม่ ซึ่งจะถูกเชื่อมโยงกับบล็อกก่อนหน้าในเครือข่าย

    – แต่ละบล็อกจะมีรหัสเฉพาะที่เรียกว่า “แฮช” (hash) ซึ่งสร้างจากข้อมูลในบล็อกและแฮชของบล็อกก่อนหน้า

3. การยืนยันการทำธุรกรรม :

    – เครือข่ายของคอมพิวเตอร์ (หรือที่เรียกว่า “โหนด” – nodes) จะทำการตรวจสอบและยืนยันความถูกต้องของการทำธุรกรรมนี้

    – หากมีความขัดแย้งหรือข้อผิดพลาด การทำธุรกรรมจะถูกปฏิเสธ

4. การบันทึกลงใน Blockchain :

    – หลังจากการยืนยันเสร็จสิ้น บล็อกจะถูกเพิ่มลงใน “ห่วงโซ่” ของบล็อก (blockchain) อย่างถาวร

    – การทำธุรกรรมที่บันทึกลงใน blockchain นี้ไม่สามารถเปลี่ยนแปลงได้ ทำให้มั่นใจได้ในความปลอดภัยและความโปร่งใส

ตัวอย่างของ Blockchain ที่ใช้

1. Ethereum :

    – Ethereum เป็นแพลตฟอร์ม blockchain ที่รู้จักกันดีสำหรับการสร้างสัญญาอัจฉริยะ (smart contracts)

    – สามารถใช้ในการสร้างและจัดการตั๋วดิจิทัลได้ โดยผู้จัดงานสามารถเขียนสัญญาอัจฉริยะเพื่อควบคุมกระบวนการซื้อขายและการตรวจสอบตั๋ว

2. Hyperledger Fabric :

    – Hyperledger Fabric เป็นแพลตฟอร์ม blockchain ที่พัฒนาโดย Linux Foundation

    – เหมาะสำหรับการใช้งานในองค์กรและสามารถปรับแต่งได้ตามความต้องการ เช่น การจัดการตั๋วงาน การตรวจสอบการทำธุรกรรม และการสร้างรายงาน

3. Polkadot :

    – Polkadot เป็นแพลตฟอร์ม blockchain ที่รองรับการเชื่อมต่อและทำงานร่วมกันระหว่างหลาย blockchain

    – สามารถใช้ในการจัดการตั๋วที่ต้องการการเชื่อมโยงกับระบบอื่นๆ เช่น การชำระเงิน การยืนยันตัวตน และการติดตามตั๋ว

การใช้ blockchain เหล่านี้จะช่วยเพิ่มความปลอดภัยและความโปร่งใสในการขายตั๋ว ลดปัญหาการขายตั๋วผีและการปลอมแปลงตั๋วได้อย่างมีประสิทธิภาพ

ตัวอย่างการใช้งาน (Used Case)

งานคอนเสิร์ต

ผู้จัดงานคอนเสิร์ตสามารถใช้ blockchain ในการจัดการและติดตามตั๋ว ตั้งแต่การขายครั้งแรกจนถึงการเข้าชมงาน การใช้เทคโนโลยีนี้สามารถทำให้แน่ใจได้ว่าตั๋วที่ใช้งานเป็นตั๋วที่ถูกต้องและถูกขายในราคาที่เหมาะสม

การแข่งขันกีฬา

ในการแข่งขันกีฬาที่มีความนิยมสูง ผู้จัดงานสามารถใช้ blockchain เพื่อป้องกันการซื้อตั๋วในปริมาณมากและขายต่อในราคาที่สูง การใช้ระบบนี้สามารถลดปัญหาการขายตั๋วผีได้อย่างมีประสิทธิภาพ

โดยสรุปแล้ว การใช้ blockchain ในการป้องกันตั๋วผีเป็นแนวทางที่มีประสิทธิภาพในการแก้ไขปัญหานี้ ด้วยความสามารถในการตรวจสอบและยืนยันตัวตน การติดตามตั๋ว การป้องกันการปลอมแปลง และการจำกัดการซื้อขาย การนำเทคโนโลยีนี้มาใช้จะช่วยให้การขายตั๋วเป็นธรรมและปลอดภัยมากขึ้น สร้างประสบการณ์ที่ดีแก่ผู้เข้าชมงานและผู้จัดงาน

About Author