Alibaba รายงานกำไรเกินคาดขณะที่สวนทางกับการใช้จ่ายของผู้บริโภคที่ซบเซา

อาลีบาบา มียอดกำไรเกินคาด แต่ยอดขายพลาดเป้าในไตรมาสกันยายน จากการใช้จ่ายผู้บริโภคในจีนที่ซบเซา

อาลีบาบา บริษัทยักษ์ใหญ่ด้านอีคอมเมิร์ซของจีน รายงานกำไรที่สูงกว่าคาดการณ์ในไตรมาสกันยายนที่ผ่านมา แต่ยอดขายกลับต่ำกว่าคาด เนื่องจากเศรษฐกิจของจีนที่ซบเซากระทบต่อการใช้จ่ายของผู้บริโภค

บริษัทระบุว่า กำไรสุทธิเพิ่มขึ้น 58% เมื่อเทียบปีต่อปี เป็น 43.9 พันล้านหยวน (6.07 พันล้านดอลลาร์) ในไตรมาสสิ้นสุดวันที่ 30 กันยายน ซึ่งสูงกว่าที่ LSEG คาดการณ์ไว้ที่ 25.83 พันล้านหยวน

“การเพิ่มขึ้นเมื่อเทียบกับปีที่แล้ว เกิดจากการเปลี่ยนแปลงมูลค่าตลาดของการลงทุนในหุ้น การลดการด้อยค่าของการลงทุน และการเพิ่มขึ้นของรายได้จากการดำเนินงาน” บริษัทกล่าวในแถลงการณ์รายงานผลประกอบการ

ขณะที่รายได้อยู่ที่ 236.5 พันล้านหยวน เพิ่มขึ้น 5% เมื่อเทียบปีต่อปี แต่ต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์ไว้ที่ 238.9 พันล้านหยวน ตามข้อมูลจาก LSEG

หุ้นของอาลีบาบาที่จดทะเบียนในตลาดนิวยอร์กเพิ่มขึ้นกว่า 13% ในปีนี้ อย่างไรก็ตาม ราคาหุ้นลดลงกว่า 2% ในช่วงเช้าวันศุกร์ หลังการเปิดเผยผลประกอบการไตรมาสล่าสุด

ผลประกอบการอีคอมเมิร์ซหลัก: Taobao และ Tmall ยังคงยืนหนึ่ง
ในไตรมาส 3 ปี 2023 ธุรกิจหลักของอาลีบาบาอย่าง Taobao และ Tmall Group ยังคงแสดงศักยภาพ โดยรายงานรายได้เพิ่มขึ้น 1% เมื่อเทียบกับปีที่แล้ว คิดเป็น 98.99 พันล้านหยวน แม้จะเจอความท้าทายจากบรรยากาศการค้าปลีกในจีนที่ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่

ทั้งนี้ ช่วงเทศกาลวันคนโสด (Singles’ Day) ของปีนี้ก็ส่งสัญญาณที่ดี ด้วยยอดซื้อขายสินค้า (Gross Merchandise Volume) ที่เติบโตแข็งแกร่ง และจำนวนผู้ซื้อที่ใช้งานแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์

ในส่วนของธุรกิจอีคอมเมิร์ซต่างประเทศ เช่น Lazada และ Aliexpress ยังน่าประทับใจไม่แพ้กัน ด้วยยอดขายที่พุ่งขึ้น 29% คิดเป็น 31.67 พันล้านหยวน ชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จในการขยายตลาดนอกจีน

คลาวด์และ AI: ตัวขับเคลื่อนอนาคตของอาลีบาบา
ธุรกิจคลาวด์ซึ่งอยู่ภายใต้ Cloud Intelligence Group มีรายได้เติบโต 7% จากปีก่อนหน้า รวมเป็น 29.6 พันล้านหยวน โดยเฉพาะผลิตภัณฑ์คลาวด์สาธารณะที่เติบโตระดับสองหลัก และผลิตภัณฑ์เกี่ยวกับ AI ที่ทำรายได้พุ่งในระดับสามหลัก

Eddie Wu ซีอีโอของอาลีบาบา ระบุว่าบริษัทกำลังเร่งผลักดันการลงทุนใน AI และโครงสร้างพื้นฐานคลาวด์อย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาตำแหน่งผู้นำในตลาดที่กำลังเติบโตอย่างรวดเร็ว โดยล่าสุด อาลีบาบาได้เปิดตัว Tongyi Qianwen แชตบอทสไตล์ ChatGPT พร้อมกับเครื่องมือค้นหา AI สำหรับธุรกิจขนาดเล็กในยุโรปและอเมริกา นอกจากนี้ ยังคว้าดีลความร่วมมือ 5 ปี กับ GoTo บริษัทเทคโนโลยียักษ์ใหญ่ของอินโดนีเซีย

การเติบโตนี้ถือเป็นก้าวสำคัญของอาลีบาบา หลังจากปรับโครงสร้างผู้นำในแผนกคลาวด์ และเผชิญกับการปราบปรามภาคเทคโนโลยีในจีนเมื่อปี 2022

CR Photos : https://www.scmp.com/tech/big-tech/article/3241816/alibaba-hand-out-first-ever-annual-dividend-it-posts-9-revenue-growth-september-quarter-amid-chinas

แนวโน้มและภาพรวมตลาด
การเติบโตในธุรกิจคลาวด์และ AI ของอาลีบาบา สะท้อนถึงความพร้อมในการแข่งขันกับยักษ์ใหญ่ทั้งในและต่างประเทศ เช่น Baidu, Huawei, Microsoft และ OpenAI ในการตอบโจทย์ความต้องการของตลาด

แม้ว่ารายได้รวมในไตรมาสนี้จะต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดการณ์เล็กน้อย (236.5 พันล้านหยวน จากคาดการณ์ที่ 238.9 พันล้านหยวน) แต่การฟื้นตัวของตลาดค้าปลีกในจีน รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจจากรัฐบาล อาจเป็นแรงส่งสำคัญให้อาลีบาบาเติบโตต่อไปในระยะยาว

ในภาพรวม ผลประกอบการไตรมาส 3 ของอาลีบาบาเป็นตัวบ่งชี้ถึงศักยภาพในธุรกิจที่หลากหลาย โดยเฉพาะในด้านอีคอมเมิร์ซ คลาวด์ และ AI ซึ่งจะเป็นหัวใจสำคัญของการเติบโตในอนาคต อนาคตของ AI เพิ่งเริ่มต้นและอาลีบาบาก็พร้อมเป็นผู้นำในสนามนี้ Eddie Wu กล่าวย้ำในงาน Apsara Conference.

แหล่งอ้างอิง : https://www.cnbc.com/2024/11/15/alibaba-baba-q2.html