มาแล้วครับ ล่าสุดจาก วอลล์สตรีท เจอนัล อ่านไปแปลไป แล้วก็ให้ chatGPT นี่แหละครับ ช่วยเขียนให้กระชับ เพื่อผู้ชม .. วันนี้ก็มีเรื่อง Amazon และ Nvidia นี่แหละครับที่กำลังเปิดฉากการแข่งขันที่ดุเดือดในตลาดชิป AI โดย Amazon พยายามชักชวนลูกค้าให้หันมาใช้ชิป AI ที่พัฒนาเอง เช่น Trainium และ Graviton แทนการพึ่งพาชิป Nvidia หวังเพิ่มอัตรากำไรในธุรกิจคลาวด์ AWS และลดต้นทุนของลูกค้า
กลยุทธ์ใหม่ของ Amazon
Amazon มุ่งเปลี่ยนลูกค้ารายใหญ่ เช่น Apple, Adobe, Databricks และ Anthropic ให้มาทดลองใช้ Trainium2 ชิป AI รุ่นล่าสุด โดย Gadi Hutt ผู้บริหารจาก Amazon Annapurna เผยว่า ชิปของ Amazon มีประสิทธิภาพใกล้เคียงกับ Nvidia H100 แต่ต้นทุนต่ำกว่าถึง 30-40% ซึ่งเหมาะกับองค์กรที่ต้องการลดค่าใช้จ่ายในการพัฒนา AI
นอกจากนี้ ชิป Trainium ยังได้รับการออกแบบให้รองรับงานที่ซับซ้อน เช่น การประมวลผลโมเดลภาษาขนาดใหญ่ (LLM) และการวิเคราะห์ภาพจากคอมพิวเตอร์วิทัศน์ โดย AWS ยังสร้างซูเปอร์คอมพิวเตอร์ที่ใช้ Trainium เพื่อตอบโจทย์ลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ เช่น Anthropic
จุดแข็งของ Nvidia ที่ยากสั่นคลอน
แม้ Amazon จะผลักดันชิปของตัวเองอย่างหนัก แต่ Nvidia ยังคงเป็นผู้นำตลาดด้วยชิปที่มีประสิทธิภาพสูงและได้รับการยอมรับจากนักพัฒนาทั่วโลก ซอฟต์แวร์ CUDA ของ Nvidia ยังคงเป็นเครื่องมือสำคัญสำหรับการเขียนโปรแกรม AI ทำให้การเปลี่ยนไปใช้ชิปอื่นไม่ใช่เรื่องง่าย
ผู้ให้บริการคลาวด์รายอื่น เช่น Google และ Microsoft ต่างพยายามพัฒนาชิปของตัวเองเพื่อลดการพึ่งพา Nvidia เช่นกัน แต่ Nvidia ยังคงครองส่วนแบ่งสำคัญในตลาด ด้วยความได้เปรียบด้านประสิทธิภาพและความเชี่ยวชาญ
ความสำเร็จของชิป Amazon
Amazon มีประสบการณ์ที่ดีจากการพัฒนาชิป Graviton ซึ่งถูกนำไปใช้แทนชิปจาก Intel และ AMD อย่างกว้างขวาง โดยเน้นประสิทธิภาพที่คุ้มค่าในราคาที่ต่ำกว่า บริษัทอย่าง Databricks ซึ่งเคยใช้งาน Graviton ก็เริ่มทดลองใช้ Trainium สำหรับงาน AI และมองเห็นศักยภาพในการลดต้นทุนการประมวลผล
Gadi Hutt กล่าว ว่า Trainium2 ถูกพัฒนาเพื่อตอบสนองความต้องการของลูกค้ารายใหญ่ที่มีค่าใช้จ่ายด้าน AI สูง และมุ่งเน้นประสิทธิภาพต่อดอลลาร์เป็นหลัก Amazon ยังประกาศว่า Trainium3 ที่มีกำลังประมวลผลสูงกว่า Trainium2 ถึง 4 เท่า จะเปิดตัวภายในปี 2025
ศึกชิงส่วนแบ่งตลาด
การแข่งขันนี้ไม่ได้มีเพียงแค่การพัฒนาชิป แต่ยังรวมถึงการสร้างความมั่นใจให้กับลูกค้าว่า Amazon เป็นตัวเลือกที่คุ้มค่าในระยะยาว แม้ Nvidia จะเตรียมปล่อยชิปรุ่นใหม่อย่าง Blackwell ในปีหน้า แต่ Amazon ย้ำว่าชิปของตนยังคงมีความน่าดึงดูดในด้านราคา
AWS ยังได้เสริมระบบนิเวศซอฟต์แวร์และเครื่องมือพัฒนาต่างๆ เพื่อสนับสนุนลูกค้าที่ใช้ Trainium โดยเฉพาะลูกค้าองค์กรขนาดใหญ่ที่มีศักยภาพในการขยายตัว เช่น Anthropic ซึ่งกำลังใช้โครงการ Rainier ซูเปอร์คอมพิวเตอร์ของ AWS ที่ช่วยลดพลังงานได้มากกว่า GPU รุ่นเดียวกันถึง 50%
ในศึกครั้งนี้สะท้อนถึงความพยายามของ Amazon ในการแย่งชิงตลาดจาก Nvidia ผ่านการพัฒนาชิป AI ที่มีต้นทุนต่ำและประสิทธิภาพสูง ขณะเดียวกัน Nvidia ยังคงรักษาความเป็นผู้นำด้วยเทคโนโลยีที่แข็งแกร่งและการครองใจนักพัฒนา การแข่งขันนี้ไม่ได้เป็นเพียงการต่อสู้ระหว่างสองยักษ์ใหญ่ แต่ยังเป็นจุดเปลี่ยนของอุตสาหกรรม AI และระบบคลาวด์ ซึ่งอาจส่งผลต่อโครงสร้างตลาดในอนาคตอย่างมีนัยสำคัญ
เดี๋ยวช่วงนี้จะอัพข่าวให้บ่อยหน่อยนะครับ จะได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของโลก AI และเบื้องหลังของ AI ว่ามันต้องใช้อะไรบ้าง
